Understand spoken Thai

"Beach 1 (Dialogue)" in Thai

ชายหาดหนึ่ง (บทสนทนา)

Unstarted

Literal Breakdown

Recording English Thai Learn
Hello, Today I will tell about my experience of going to the sea.

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องประสบการณ์การท่องเที่ยวทะเลของผมนะครับ

When I was young, there was a story.

ในสมัยผมยังเป็นเด็ก คือเรื่องมีอยู่ว่า

At that time it was Songkran day.

ในตอนนั้นเนี่ยมันเป็นช่วงสงกรานต์พอดีเลย

It is a high season in Thailand.

เป็นช่วงไฮซีซั่นของประเทศไทยนะครับ

Then, we plan in the family that we will go to the sea that year.

แล้วทีนี้เนี่ย เราก็แพลนกันในครอบครัวว่า เราจะไปเที่ยวทะเลกันในปีนั้น

The place I will go to is Hua Hin.

ที่ที่ผมไป จะเป็นที่หัวหินนะครับ

It is in the south of Thailand.

อยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย

I think it is Prachuap Khiri Khan province.

รู้สึกจะเป็นจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

And then my father will be the driver for us.

ทีนี้เนี่ย คุณพ่อจะเป็นคนขับรถให้เรา

And we have to travel from Chiang Mai to Prachuap.

แล้วเราต้องเดินทางจากเชียงใหม่ไปประจวบ

It is a very far distance.

ซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลมาก ๆ

We cannot drive the car to go there in one day.

เราไม่สามารถขับรถภายในวันเดียวถึง

We have to stop by in Bangkok first.

เราต้องแวะพักที่กรุงเทพก่อน

And stay there for one night before continuing to travel.

แล้วก็นอนพักที่นั่นคืนหนึ่งก่อนจะออกเดินทางต่อไปนะครับ

We arrived there around the evening because the distance from Bangkok to Prachuap is far away.

พอเราไปถึง ตอนนั้นประมาณตอนเย็นแล้ว เพราะว่าจากกรุงเทพไปประจวบก็ยังไกลอยู่ดี

We arrived in the evening and we had no idea why there were so many tourists.

เราถึงกันตอนเย็น แล้วนักท่องเที่ยวไม่รู้มาจากไหน

I understand that it’s a high season but it’s too much until we don’t have any hotel to stay.

คือเข้าใจว่าเป็นช่วงไฮซีซั่น แต่ว่ามันเยอะมาก ๆ เลย จนเราไม่มีโรงแรมที่จะพัก

We normally expect to stay in the hotels near the beach but with a lot of people, those hotels were fully booked.

คือปกติเราคาดหวังจะได้โรงแรมอยู่ติดกับชายหาดแต่ว่าคนมันเยอะจองเต็มหมดแล้ว

So we had to find a hotel far from the beach about two kilometres if I remember correctly.

เราก็เลยต้องไปหาโรงแรมที่อยู่ไกลจาก..จากชายหาดประมาณสองกิโลมั้งครับถ้าผมจำไม่ผิด

Another problem after we got to the hotel was that we couldn’t drive the car into the beach because there were a lot of people and there was no parking for us.

อีกปัญหาหนึ่งหลังจากที่เราได้โรงแรมแล้วก็คือ เราไม่สามารถเอารถขับเข้าไปที่ชายหาดได้ เพราะว่าคนมันเยอะ แล้วเราไม่มีที่จอดรถ

So we had to walk to the beach which was very far away and I was too lazy to walk.

เราก็เลยต้องเดินเท้าเข้าไปที่ชายหาดซึ่งไกลมาก แล้วผมก็ขี้เกียจเดินมากเลย

But when we got there our feelings changed, became very excited and I was really very excited because we saw the bustling atmosphere of tourists and beaches full of people.

แต่ว่าพอเราไปถึงแล้วเนี่ยความรู้สึกเปลี่ยนไปเลย กลับรู้สึกตื่นเต้นมาก คือผมรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะว่าเราได้เห็นบรรยากาศที่คึกคักของนักท่องเที่ยว แล้วก็ เอ่อ..คนที่แน่นเต็มชายหาด

Then, the first thing which we had to do was we had to find a dining table and we found a dining table and seats for rent on the beach which I don’t know the rental price but it was expensive.

ทีนี้เนี่ย สิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือ เราต้องหาโต๊ะ คือหาโต๊ะที่นั่งที่ชายหาดนะครับ หา..หา..หาเช่า ผมไม่รู้ว่าราคาเท่าไหร่นะครับ แต่ว่ามันก็แพงอยู่เหมือนกัน

As soon as we got a table, we started ordering food immediately.

พอเราได้โต๊ะปุ๊บ เราก็เริ่มจากการสั่งอาหารก่อน

The food there will be seafood and maybe some rice.

อาหารที่นั่นจะเป็นอาหารประเภทอาหารทะเลนะครับ แล้วก็อาจจะมีข้าวบ้าง

But I ordered the grilled seafood, the grilled seafood are everything including seafood, such as shrimp crabs clams and squid. Bring it to the full table.

แต่ที่ผมสั่งก็คือ เป็นทะเลเผา ทะเลเผาก็คือรวมทุกอย่างที่เป็นของทะเล เช่น กุ้ง ปู หอย อะไรอย่างงี้นะครับ ปลาหมึก อะใช่..ปลาหมึก เอามาเต็มโต๊ะเลย

And we ordered a large plate of fried rice because Thai people like to eat rice if there is no rice then they are feel not full.

แล้วเราก็สั่งข้าวผัดมาจานใหญ่ ๆ เพราะว่าคนไทยชอบกินข้าว ถ้าไม่มีข้าวรู้สึกไม่อิ่มนะครับ

On that day we sat with our family and my dad drank beer and watched the sea view. There is the sea breeze blowing.

ในวันนั้นเนี่ย คือเรานั่งกันเป็นครอบครัว แล้วก็พ่อผมก็ดื่มเบียร์ ชมบรรยากาศทะเล มีลมทะเลพัด

Oh! the wind is cool. People swim in the sea.

โอ้ลมเย็นสบาย ผู้คนก็ลงเล่นน้ำทะเล

Well, it was a very relaxing atmosphere. I wanted to try swimming in the sea.

คือมันเป็นบรรยากาศที่สบายผ่อนคลายมาก ๆ แล้วผมเนี่ยอยากจะลองเล่นน้ำทะเลดู

So I invited my dad to play on the beach.

ผมก็เลยชวนพ่อลงไปเล่นที่ชายหาด

But the strange thing is that the area where I am sitting is an area that has only shells. Can you imagine it.

แต่ว่าที่แปลกก็คือ ไอ้ที่ที่ผมนั่งอยู่เนี่ย มันเป็นจุดที่มีแต่เปลือกหอยนึกออกไหมครับ

And it’s not a fine sandy beach as we imagined.

คือมันไม่ใช่เป็นหาดละเอียด ๆ อย่างที่เราคิดจินตนาการเอาไว้

It consisted of coarse sand, fine gravel, shells and many crabs.

คือมันมีแต่ทรายหยาบ กรวดละเอียด เปลือกหอย เปลือก..ไอ้..ปู อะไรหลาย ๆ อย่างเนี่ย

And then there were small bits of glass in the water which could cut my feet. I walked around and tried to avoid stepping on them.

แล้วก็มีไอ้พวกแก้วน้ำนะครับ เศษ..เศษเล็กๆอะ ที่มันจะบาดเท้าได้ คือผมก็เดินข้าม ๆ ไป พยายามหลบ ๆ ไม่..ไม่เหยียบนะครับ

When we walked to the water...

พอเราเดินไปจนถึงที่น้ำ

I stepped with my feet in the water, Oh! very cold, it was very cold.

ผมก็เอาเท้าเหยียบ โอ้โห..เย็นมาก น้ำเย็นสุด ๆ

Which he was luckier than me as that area there was fine sand.

ซึ่งเขาโชคดีกว่าผมตรงที่ว่าจุดนั้นนะ เป็นทรายละเอียด

But my brother was at another area.

แต่ว่าพี่ชายผมนะอยู่อีกจุดหนึ่ง

The area where I was had coarse sand, coarse gravel and shells.

ส่วนที่ผมอยู่เนี่ย มันเป็นทรายหยาบ กรวดหยาบ แล้วก็เปลือกหอย

I continued to walk. Until the sea flooded my chest and then I felt pain in my feet which we hadn’t noticed that we were walking on sand or gravels or shells.

ผมก็ยังมุ่งหน้าเดินต่อไปเรื่อย ๆ ผมเดินไปจน..จนน้ำทะเลมันท่วมอก แล้วผมก็เริ่มรู้สึกเจ็บที่เท้า คือเราไม่ได้สังเกตว่าไอ้ที่เราเดินอยู่เนี่ย มันเป็นทรายมันเป็นกรวดหรือว่ามันเป็นเปลือกหอย

And then I can hear my father shouting for me to hurry ashore because my area there are only shells.

ทีนี้ผมก็ได้ยินเสียงพ่อผมตะโกนว่า ให้ผมรีบขึ้นฝั่ง เพราะว่าไอ้จุดที่ผมอยู่เนี่ย มันคือเปลือกหอยล้วน ๆ

And I was very unlucky.

แล้วผมโชคร้ายมาก

That is I didn’t see the sign. Can you imagine it?

คือผมไม่เห็นป้ายนึกออกปะ

There will be a sign indicating that the area where I am staying, I must not play because there are only shells and no sand.

มันจะมีป้ายบอกว่าไอ้จุดที่ผมอยู่เนี่ย ห้ามลงเล่น เพราะมันมีแต่เปลือกหอยไม่มีทราย

Now I can feel it.

ทีนี้ผมก็รู้สึกตัว

Oh! ...that was bad...I was very hurt.

โอ้..แย่แล้ว คือ..ผมเจ็บมาก

And then I had to run up.

แล้วคราวนี้ผมก็วิ่งขึ้นเลย

I ran...ran...ran.

ผมวิ่ง วิ่ง วิ่ง

and then I was in pain because I was aware at the time I walked down

แล้วทีนี้เราเจ็บ เพราะว่าเรารู้สึกตัวไง ไอ้ตอนที่เราเดินลง

Notes

Gun tells us about his first trip with his family to the beach. It's Songkran and Hua Hin is busy, but they find a hotel and make it to the beach. The beach, however, is not a sandy one, and Gun cuts his feet open while playing in the water.

Transcript

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องประสบการณ์ การท่องเที่ยวทะเลของผมนะครับ ในสมัยผมยังเป็นเด็ก คือเรื่องมีอยู่ว่า ในตอนนั้นเนี่ยมันเป็นช่วงสงกรานต์พอดีเลย เป็นช่วงไฮซีซันของประเทศไทยนะครับ แล้วทีนี้เนี่ย เราก็แพลนกันในครอบครัวว่า เราจะไปเที่ยวทะเลกันในปีนั้น ที่ที่ผมไป จะเป็นที่หัวหินนะครับ อยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย รู้สึกจะเป็นจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทีนี้เนี่ย คุณพ่อจะเป็นคนขับรถให้เรา แล้วเราต้องเดินทางจากเชียงใหม่ไปประจวบ ซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลมาก ๆ เราไม่สามารถขับรถภายในวันเดียวถึง เราต้องแวะพักที่กรุงเทพฯ ก่อน แล้วก็นอนพักที่นั่นคืนหนึ่งก่อนจะออกเดินทางต่อไปนะครับ พอเราไปถึง ตอนนั้นประมาณตอนเย็นแล้ว เพราะว่าจากกรุงเทพฯ ไปประจวบก็ยังไกลอยู่ดี เราถึงกันตอนเย็น แล้วนักท่องเที่ยวไม่รู้มาจากไหน คือเข้าใจว่าเป็นช่วงไฮซีซัน แต่ว่ามันเยอะมาก ๆ เลย จนเราไม่มีโรงแรมที่จะพัก คือปกติเราคาดหวังจะได้โรงแรมอยู่ติดกับชายหาด แต่ว่าคนมันเยอะจองเต็มหมดแล้ว เราก็เลยต้องไปหาโรงแรมที่อยู่ไกลจาก..จากชายหาดประมาณสองกิโลมั้งครับถ้าผมจำไม่ผิด อีกปัญหาหนึ่งหลังจากที่เราได้โรงแรมแล้วก็คือ เราไม่สามารถเอารถขับเข้าไปที่ชายหาดได้ เพราะว่าคนมันเยอะ แล้วเราไม่มีที่จอดรถ เราก็เลยต้องเดินเท้าเข้าไปที่ชายหาดซึ่งไกลมาก แล้วผมก็ขี้เกียจเดินมากเลย แต่ว่าพอเราไปถึงแล้วเนี่ยความรู้สึกเปลี่ยนไปเลย กลับรู้สึกตื่นเต้นมาก คือผมรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะว่าเราได้เห็นบรรยากาศที่คึกคักของนักท่องเที่ยว แล้วก็ เอ่อ..คนที่แน่นเต็มชายหาด ทีนี้เนี่ย สิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือ เราต้องหาโต๊ะ คือหาโต๊ะที่นั่งที่ชายหาดนะครับ หา..หา..หาเช่า ผมไม่รู้ว่าราคาเท่าไหร่นะครับ แต่ว่า มันก็แพงอยู่เหมือนกัน พอเราได้โต๊ะปุ๊บ เราก็เริ่มจากการสั่งอาหารก่อน อาหารที่นั่นจะเป็นอาหารประเภทอาหารทะเลนะครับ แล้วก็อาจจะมีข้าวบ้าง แต่ที่ผมสั่งก็คือ เป็นทะเลเผา ทะเลเผาก็คือรวมทุกอย่างที่เป็นของทะเล เช่น กุ้ง ปู หอย อะไรอย่างงี้นะครับ ปลาหมึก อะใช่..ปลาหมึก เอามาเต็มโต๊ะเลย แล้วเราก็สั่งข้าวผัดมาจานใหญ่ ๆ เพราะว่าคนไทยชอบกินข้าว ถ้าไม่มีข้าวรู้สึกไม่อิ่มนะครับ ในวันนั้นเนี่ย คือเรานั่งกันเป็นครอบครัว แล้วก็พ่อผมก็ดื่มเบียร์ ชมบรรยากาศทะเล มีลมทะเลพัด โอ้[ยม]ลมเย็นสบาย ผู้คนก็ลงเล่นน้ำทะเล คือมันเป็นบรรยากาศที่สบายผ่อนคลายมาก ๆ แล้วผมเนี่ยอยากจะลองเล่นน้ำทะเลดู ผมก็เลยชวนพ่อลงไปเล่นที่ชายหาด แต่ว่าที่แปลกก็คือ ไอ้ที่ที่ผมนั่งอยู่เนี่ย มันเป็นจุดที่มีแต่เปลือกหอยนึกออกไหมครับ คือมันไม่ใช่เป็นหาดละเอียด ๆ อย่างที่เราคิดจินตนาการเอาไว้ คือมันมีแต่ทรายหยาบ กรวดละเอียด เปลือกหอย เปลือก..ไอ้..ปู อะไรหลาย ๆ อย่างเนี่ย แล้วก็มีไอ้พวกแก้วน้ำนะครับ เศษ..เศษเล็กๆอะ ที่มันจะบาดเท้าได้ คือผมก็เดินข้าม ๆ ไป พยายามหลบ ๆ ไม่..ไม่เหยียบนะครับ พอเราเดินไปจนถึงที่น้ำ ผมก็เอาเท้าเหยียบ โอ้โห..เย็นมาก น้ำเย็นสุด ๆ แต่ว่าพี่ชายผมนะอยู่อีกจุดหนึ่ง ซึ่งเขาโชคดีกว่าผมตรงที่ว่าจุดนั้นน่ะ เป็นทรายละเอียด ส่วนที่ผมอยู่เนี่ย มันเป็นทรายหยาบ กรวดหยาบ แล้วก็เปลือกหอย ผมก็ยังมุ่งหน้าเดินต่อไปเรื่อย ๆ ผมเดินไปจน..จนน้ำทะเลมันท่วมอก แล้วผมก็เริ่มรู้สึกเจ็บที่เท้า คือเราไม่ได้สังเกตว่าไอ้ที่เราเดินอยู่เนี่ย มันเป็นทรายมันเป็นกรวดหรือว่ามันเป็นเปลือกหอย ทีนี้ผมก็ได้ยินเสียงพ่อผมตะโกนว่า ให้ผมรีบขึ้นฝั่ง เพราะว่าไอ้จุดที่ผมอยู่เนี่ย มันคือเปลือกหอยล้วน ๆ แล้วผมโชคร้ายมาก คือผมไม่เห็นป้ายนึกออกปะ มันจะมีป้ายบอกว่าไอ้จุดที่ผมอยู่เนี่ย ห้ามลงเล่น เพราะมันมีแต่เปลือกหอยไม่มีทราย ทีนี้ผมก็รู้สึกตัว โอ้..แย่แล้ว คือ..ผมเจ็บมาก แล้วคราวนี้ผมก็วิ่งขึ้นเลย ผมวิ่ง ๆ ๆ แล้วทีนี้เราเจ็บ เพราะว่าเรารู้สึกตัวไง ไอ้ตอนที่เราเดินลงมันไม่รู้สึก แต่พอคราวนี้เรารู้สึกตัวแล้ว เราก็วิ่ง พอมาถึงที่ฝั่งอะ เลือดเต็มเลยอะ มีแต่เลือดออกเต็มเท้า ผมคือแบบสุด ๆ แล้วอะ ทรมานมาก คือมีแต่รอยบาด รอยกรีด แผลเต็มเท้า เลือดไหลโชกเลย พ่อผมก็เป็นนะ พ่อผมก็เลือดไหลเหมือนกัน เรา..เรารู้สึกเสียอารมณ์มาก เดินกลับโรงแรม คือเราไม่ได้เอารถมา ขับรถไปไม่ได้ ต้องเดินกลับโรงแรมสองกิโลอะ แล้วเท้ามีแต่เลือดอะ คุณนึกดูแล้วกัน ผมเจ็บ ทรมาน ไปถึงโรงแรมก็ใส่ยาอย่างเดียว เอาแอลกอฮอล์ราด เอาผ้าพันแผลพันเท้าไว้ หลังจากนั้นผมก็เลยจำเลยว่า หัวหินเนี่ย มันเป็นที่ที่อันตรายมากสำหรับผมนะครับ

Summary

The Thai translation for “Beach 1 (Dialogue)” is ชายหาดหนึ่ง (บทสนทนา). The Thai, ชายหาดหนึ่ง (บทสนทนา), can be broken down into 65 parts:"Hello, Today I will tell about my experience of going to the sea." (สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องประสบการณ์การท่องเที่ยวทะเลของผมนะครับ), "When I was young, there was a story." (ในสมัยผมยังเป็นเด็ก คือเรื่องมีอยู่ว่า), "At that time it was Songkran day." (ในตอนนั้นเนี่ยมันเป็นช่วงสงกรานต์พอดีเลย), "It is a high season in Thailand." (เป็นช่วงไฮซีซั่นของประเทศไทยนะครับ), "Then, we plan in the family that we will go to the sea that year." (แล้วทีนี้เนี่ย เราก็แพลนกันในครอบครัวว่า เราจะไปเที่ยวทะเลกันในปีนั้น), "The place I will go to is Hua Hin." (ที่ที่ผมไป จะเป็นที่หัวหินนะครับ), "It is in the south of Thailand." (อยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย), "I think it is Prachuap Khiri Khan province." (รู้สึกจะเป็นจังหวัดประจวบคีรีขันธ์), "And then my father will be the driver for us." (ทีนี้เนี่ย คุณพ่อจะเป็นคนขับรถให้เรา), "And we have to travel from Chiang Mai to Prachuap." (แล้วเราต้องเดินทางจากเชียงใหม่ไปประจวบ), "It is a very far distance." (ซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลมาก ๆ), "We cannot drive the car to go there in one day." (เราไม่สามารถขับรถภายในวันเดียวถึง), "We have to stop by in Bangkok first." (เราต้องแวะพักที่กรุงเทพก่อน), "And stay there for one night before continuing to travel." (แล้วก็นอนพักที่นั่นคืนหนึ่งก่อนจะออกเดินทางต่อไปนะครับ), "We arrived there around the evening because the distance from Bangkok to Prachuap is far away." (พอเราไปถึง ตอนนั้นประมาณตอนเย็นแล้ว เพราะว่าจากกรุงเทพไปประจวบก็ยังไกลอยู่ดี), "We arrived in the evening and we had no idea why there were so many tourists." (เราถึงกันตอนเย็น แล้วนักท่องเที่ยวไม่รู้มาจากไหน), "I understand that it’s a high season but it’s too much until we don’t have any hotel to stay." (คือเข้าใจว่าเป็นช่วงไฮซีซั่น แต่ว่ามันเยอะมาก ๆ เลย จนเราไม่มีโรงแรมที่จะพัก), "We normally expect to stay in the hotels near the beach but with a lot of people, those hotels were fully booked." (คือปกติเราคาดหวังจะได้โรงแรมอยู่ติดกับชายหาดแต่ว่าคนมันเยอะจองเต็มหมดแล้ว), "So we had to find a hotel far from the beach about two kilometres if I remember correctly." (เราก็เลยต้องไปหาโรงแรมที่อยู่ไกลจาก..จากชายหาดประมาณสองกิโลมั้งครับถ้าผมจำไม่ผิด), "Another problem after we got to the hotel was that we couldn’t drive the car into the beach because there were a lot of people and there was no parking for us." (อีกปัญหาหนึ่งหลังจากที่เราได้โรงแรมแล้วก็คือ เราไม่สามารถเอารถขับเข้าไปที่ชายหาดได้ เพราะว่าคนมันเยอะ แล้วเราไม่มีที่จอดรถ), "So we had to walk to the beach which was very far away and I was too lazy to walk." (เราก็เลยต้องเดินเท้าเข้าไปที่ชายหาดซึ่งไกลมาก แล้วผมก็ขี้เกียจเดินมากเลย), "But when we got there our feelings changed, became very excited and I was really very excited because we saw the bustling atmosphere of tourists and beaches full of people." (แต่ว่าพอเราไปถึงแล้วเนี่ยความรู้สึกเปลี่ยนไปเลย กลับรู้สึกตื่นเต้นมาก คือผมรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะว่าเราได้เห็นบรรยากาศที่คึกคักของนักท่องเที่ยว แล้วก็ เอ่อ..คนที่แน่นเต็มชายหาด), "Then, the first thing which we had to do was we had to find a dining table and we found a dining table and seats for rent on the beach which I don’t know the rental price but it was expensive." (ทีนี้เนี่ย สิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือ เราต้องหาโต๊ะ คือหาโต๊ะที่นั่งที่ชายหาดนะครับ หา..หา..หาเช่า ผมไม่รู้ว่าราคาเท่าไหร่นะครับ แต่ว่ามันก็แพงอยู่เหมือนกัน), "As soon as we got a table, we started ordering food immediately." (พอเราได้โต๊ะปุ๊บ เราก็เริ่มจากการสั่งอาหารก่อน), "The food there will be seafood and maybe some rice." (อาหารที่นั่นจะเป็นอาหารประเภทอาหารทะเลนะครับ แล้วก็อาจจะมีข้าวบ้าง), "But I ordered the grilled seafood, the grilled seafood are everything including seafood, such as shrimp crabs clams and squid. Bring it to the full table." (แต่ที่ผมสั่งก็คือ เป็นทะเลเผา ทะเลเผาก็คือรวมทุกอย่างที่เป็นของทะเล เช่น กุ้ง ปู หอย อะไรอย่างงี้นะครับ ปลาหมึก อะใช่..ปลาหมึก เอามาเต็มโต๊ะเลย), "And we ordered a large plate of fried rice because Thai people like to eat rice if there is no rice then they are feel not full." (แล้วเราก็สั่งข้าวผัดมาจานใหญ่ ๆ เพราะว่าคนไทยชอบกินข้าว ถ้าไม่มีข้าวรู้สึกไม่อิ่มนะครับ), "On that day we sat with our family and my dad drank beer and watched the sea view. There is the sea breeze blowing." (ในวันนั้นเนี่ย คือเรานั่งกันเป็นครอบครัว แล้วก็พ่อผมก็ดื่มเบียร์ ชมบรรยากาศทะเล มีลมทะเลพัด), "Oh! the wind is cool. People swim in the sea." (โอ้ลมเย็นสบาย ผู้คนก็ลงเล่นน้ำทะเล), "Well, it was a very relaxing atmosphere. I wanted to try swimming in the sea." (คือมันเป็นบรรยากาศที่สบายผ่อนคลายมาก ๆ แล้วผมเนี่ยอยากจะลองเล่นน้ำทะเลดู), "So I invited my dad to play on the beach." (ผมก็เลยชวนพ่อลงไปเล่นที่ชายหาด), "But the strange thing is that the area where I am sitting is an area that has only shells. Can you imagine it." (แต่ว่าที่แปลกก็คือ ไอ้ที่ที่ผมนั่งอยู่เนี่ย มันเป็นจุดที่มีแต่เปลือกหอยนึกออกไหมครับ), "And it’s not a fine sandy beach as we imagined." (คือมันไม่ใช่เป็นหาดละเอียด ๆ อย่างที่เราคิดจินตนาการเอาไว้), "It consisted of coarse sand, fine gravel, shells and many crabs." (คือมันมีแต่ทรายหยาบ กรวดละเอียด เปลือกหอย เปลือก..ไอ้..ปู อะไรหลาย ๆ อย่างเนี่ย), "And then there were small bits of glass in the water which could cut my feet. I walked around and tried to avoid stepping on them." (แล้วก็มีไอ้พวกแก้วน้ำนะครับ เศษ..เศษเล็กๆอะ ที่มันจะบาดเท้าได้ คือผมก็เดินข้าม ๆ ไป พยายามหลบ ๆ ไม่..ไม่เหยียบนะครับ), "When we walked to the water..." (พอเราเดินไปจนถึงที่น้ำ), "I stepped with my feet in the water, Oh! very cold, it was very cold." (ผมก็เอาเท้าเหยียบ โอ้โห..เย็นมาก น้ำเย็นสุด ๆ), "Which he was luckier than me as that area there was fine sand." (ซึ่งเขาโชคดีกว่าผมตรงที่ว่าจุดนั้นนะ เป็นทรายละเอียด), "But my brother was at another area." (แต่ว่าพี่ชายผมนะอยู่อีกจุดหนึ่ง), "The area where I was had coarse sand, coarse gravel and shells." (ส่วนที่ผมอยู่เนี่ย มันเป็นทรายหยาบ กรวดหยาบ แล้วก็เปลือกหอย), "I continued to walk. Until the sea flooded my chest and then I felt pain in my feet which we hadn’t noticed that we were walking on sand or gravels or shells." (ผมก็ยังมุ่งหน้าเดินต่อไปเรื่อย ๆ ผมเดินไปจน..จนน้ำทะเลมันท่วมอก แล้วผมก็เริ่มรู้สึกเจ็บที่เท้า คือเราไม่ได้สังเกตว่าไอ้ที่เราเดินอยู่เนี่ย มันเป็นทรายมันเป็นกรวดหรือว่ามันเป็นเปลือกหอย), "And then I can hear my father shouting for me to hurry ashore because my area there are only shells." (ทีนี้ผมก็ได้ยินเสียงพ่อผมตะโกนว่า ให้ผมรีบขึ้นฝั่ง เพราะว่าไอ้จุดที่ผมอยู่เนี่ย มันคือเปลือกหอยล้วน ๆ), "And I was very unlucky." (แล้วผมโชคร้ายมาก), "That is I didn’t see the sign. Can you imagine it?" (คือผมไม่เห็นป้ายนึกออกปะ), "There will be a sign indicating that the area where I am staying, I must not play because there are only shells and no sand." (มันจะมีป้ายบอกว่าไอ้จุดที่ผมอยู่เนี่ย ห้ามลงเล่น เพราะมันมีแต่เปลือกหอยไม่มีทราย), "Now I can feel it." (ทีนี้ผมก็รู้สึกตัว), "Oh! ...that was bad...I was very hurt." (โอ้..แย่แล้ว คือ..ผมเจ็บมาก), "And then I had to run up." (แล้วคราวนี้ผมก็วิ่งขึ้นเลย), "I ran...ran...ran." (ผมวิ่ง วิ่ง วิ่ง), "and then I was in pain because I was aware at the time I walked down" (แล้วทีนี้เราเจ็บ เพราะว่าเรารู้สึกตัวไง ไอ้ตอนที่เราเดินลง), "It didn’t hurt but as soon as we were aware of it we ran." (มันไม่รู้สึก แต่พอคราวนี้เรารู้สึกตัวแล้วเราก็วิ่ง), "When I arrived at the shore, I bled a lot." (พอมาถึงที่ฝั่งอะ เลือดเต็มเลยอะ), "My whole foot was bleeding." (มีแต่เลือดออกเต็มเท้า), "I was suffering a lot." (ผมคือแบบสุด ๆ แล้วอะ ทรมานมาก), "There were cuts and cuts and wounds on my feet, blood drenched." (คือมีแต่รอยบาด รอยกรีด แผลเต็มเท้า เลือดไหลโชกเลย), "My father too, my father was also bleeding." (พ่อผมก็เป็นนะ พ่อผมก็เลือดไหลเหมือนกัน), "We felt in a bad mood." (เรา..เรารู้สึกเสียอารมณ์มาก), "We walked back to the hotel since we didn’t bring the car." (เดินกลับโรงแรม คือเราไม่ได้เอารถมา), "We couldn’t drive the car." (ขับรถไปไม่ได้), "We had to walk two kilometres back to the hotel." (ต้องเดินกลับโรงแรมสองกิโลอะ), "And my feet were only blood." (แล้วเท้ามีแต่เลือดอะ), "Can you imagine it?" (คุณนึกดูแล้วกัน), "I was hurt and tortured." (ผมเจ็บ ทรมาน), "We got to the hotel then applied an antiseptic and alcohol and bandaged my foot." (ไปถึงโรงแรมก็ใส่ยาอย่างเดียว เอาแอลกอฮอล์ราด เอาผ้าพันแผลพันเท้าไว้) and "After that I remember Hua Hin as a very dangerous place for me." (หลังจากนั้นผมก็เลยจำเลยว่า หัวหินเนี่ย มันเป็นที่ที่อันตรายมากสำหรับผมนะครับ).

Examples of "Beach 1 (Dialogue)" in use

There is 1 example of the Thai word for "Beach 1 (Dialogue)" being used:

Practice Lesson

Lesson words
This lesson has no individual words.
Lesson phrases
etc.

View all lesson phrases

Acknowledgements

Audio